ก้าวสู่โลกแห่งอุปกรณ์เล่นเกมระดับไฮเอนด์ด้วย HyperX Pulsefire Haste 2 Core Wireless ทางเลือกที่ประหยัดกว่า Pulsefire Haste 2 แบบเดิมนี้มาพร้อมกับรูปทรงสมมาตรอันเป็นที่คุ้นเคยกันดีในเค้าโครงที่มีน้ำหนักเบา โดยมีน้ำหนักการใช้งานที่ 70 กรัมเท่านั้น[3] ใช้กำลังขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ AAA ก้อนเดียว เมาส์ตัวนี้สามารถใช้เล่นเกมผ่านการเชื่อมต่อ 2.4Ghz ความเร็วสูงได้นานถึง 100 ชั่วโมง[1] หรือจะสลับไปเป็นโหมด Bluetooth ก็ได้เพื่อให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น โดยจะมีอัตราความไวในการส่งสัญญาณที่ลดลง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่มเกมแบบสบายๆ ที่ด้านใน คุณจะเห็นเซนเซอร์หลักแบบปรับแต่งได้ของ HyperX ที่มีขีดความสามารถสูงสุด 12,000 DPI โดยมีอัตราความไวการส่งสัญญาณสูงสุดที่ 1,000Hz เพื่อการคลิกที่รวดเร็วและการกวาดเมาส์ที่ลื่นไหล นอกจากนี้คุณยังวางใจได้ในสวิตช์ TTC Gold ที่ทนทานและรับรู้ได้ด้วยการสัมผัสที่จะทำให้การเล่นเกมของคุณมีช่วงเวลาที่ยาวนานโดยคลิกได้ถึง 20 ล้านครั้ง[4] สิ่งที่ทำให้การเคลื่อนไหวง่ายขึ้นก็คือ แผ่นรองเลื่อนแรงเสียดทานต่ำที่จะพาคุณเลื่อนไปบนแผ่นรองเมาส์แบบผ้าได้อย่างง่ายดาย การเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY HyperX[5] จะปลดล็อกศักยภาพของ Pulsefire Haste 2 Core Wireless ได้อย่างเต็มที่ ที่นี่คุณสามารถกำหนดฟังก์ชันและมาโครสำคัญๆ ให้กับอินเทอร์เฟซ 6 ปุ่มได้ ตั้งระดับ DPI ที่แม่นยำสำหรับการติดตามจุดที่กำหนด ปรับอัตราความไวการส่งสัญญาณเพื่อประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และทำได้แม้แต่ปรับแต่งการจัดแสง RGB และเอฟเฟกต์ให้เหมาะกับสไตล์ในแบบฉบับของคุณเอง นอกจากนี้ Pulsefire Haste 2 Core Wireless ยังผ่านการตรวจสอบยืนยันแล้วว่าสามารถใช้งานได้กับ NVIDIA Reflex[6] เพื่อปรับเวลาแฝงระบบให้เหมาะสมที่สุดด้วยหน้าจอที่ใช้ด้วยกันได้